เพราะการเลือกซื้อประกันรถยนต์คือเงินก้อนนึงที่ต้องจ่าย ยังไงก็ต้องเลือกให้พอเหมาะพอดีกับเรา ไม่ให้ฟุ่มเฟือยหรือซื้อแพงเกินควร และคุ้มครองไม่น้อยเกินไปเพื่อให้เราอุ่นใจที่สุดในการดูแลครอบครัวและตัวเราเอง ก่อนอื่นต้องถามตัวเองก่อนว่า
พฤติกรรมการขับรถของเรานั้นเป็นแบบไหน
อายุและสภาพรถเป็นเช่นไร?
รถใหม่ป้ายแดงก็ต้องแรงเสมอ แต่ก็ต้องดูแลกันนิดนึง แต่รถเก่าหลายปีแต่เก๋าในการขับขี่ก็เลือกประกันที่เหมาะสมลงตัวกับราคาดีกว่า เอาเงินในการจ่ายประกันมาดูแลรถได้พอสมควรทีเดียว ทั้งนี้ทั้งนั้นสภาพรถและอายุการใช้งานย่อมบ่งบอกความพอเหมาะพอดีในการเลือกประกันรถยนต์ได้เช่นกัน
ไม่ค่อยได้ขับขี่ ประกันชั้นไหนดีเหมาะกับเรา?
บางท่านอาจจะทำงานที่บ้าน หรือไม่ค่อยได้ใช้งานรถยนต์เลยจริงๆ ในการเลือกประกันก็ต้องดูความเหมาะสมในการใช้งานและราคาที่จ่าย เช่นเดือนหนึ่งขับรถไม่กี่ครั้ง และเส้นทางเดิมๆใกล้ๆ เลือกจ่ายตามราคาและความคุ้มครองในระดับชั้นสามก็ไม่แปลก ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนเหมาะเจาะลงตัวกับประกันแบบไหน
ประกันรถยนต์ชั้น 1
เป็นประกันที่ตอบโจทย์ทุกอย่างในการให้ความคุ้มครองที่เกิดจากการชน รถป้ายแดงทุกคันมักจะได้ ได้รับของแถมเป็นประกันชั้น 1 กันอยู่แล้ว ซึ่งความคุ้มครองของประกันที่ว่านี้ แยกออกเป็น 3 หมวดหมู่ คือ
1.ความคุ้มครองตัวรถคันที่เอาประกันภัย
คือความคุ้มครองรถยนต์ของเราคันที่ทำประกัน รวมถึงความคุ้มครองอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนกับรถยนต์ด้วยกันเองและการชนสิ่งที่ไม่ใช่รถด้วย เช่น ชนเสาไฟฟ้า ชนรั้วบ้าน หรือล้อแม็กครูดฟุตบาท หรือกรณีรถหายจากการถูกโจรกรรม รถโดนไฟไหม้ และรถโดนน้ำท่วม
2.ความคุ้มครองภัยพิเศษ
เพื่อความครอบคลุมภัยที่อาจจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่คาดคิด เช่น ภัยก่อการร้ายเมื่อมีการประกาศโดยรัฐบาล อุบัติเหตุส่วนบุคคลเมื่อคนขับหรือผู้โดยสารเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ค่ารักษาพยาบาลเมื่อคนขับและผู้โดยสารในรถได้รับบาดเจ็บ และการประกันตัวผู้ขับขี่เมื่อเกิดคดีอาญาและต้องส่งฟ้องศาล
3.ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
คือ คุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก(ทรัพย์สินของคนอื่นๆ ที่เราขับรถไปชนหรือเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ) และคุ้มครองบุคคลภายนอก(เมื่อสูญเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ และเกี่ยวข้องกับสุขภาพ)
ประกันรถยนต์ชั้น 2+
ประกันรถที่คุ้มครองการชนจากรถชนรถ (รถที่มีป้ายทะเบียน) หรือการชนที่ระบุคู่กรณีได้เท่านั้น ส่วนความคุ้มครองที่เหลือเหมือนกับประกันชั้น 1 แยกออกเป็น 3 หมวดหมู่ เช่นเดียวกัน
1.ความคุ้มครองตัวรถคันที่เอาประกันภัย
คุ้มครองรถยนต์ของเราจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนกับรถยนต์ด้วยกันเท่านั้น การชนสิ่งที่ไม่ใช่รถไม่คุ้มครอง ส่วนรถหายจากการถูกโจรกรรม รถไฟไหม้ และรถน้ำท่วมคุ้มครองเหมือนชั้น 1 ตามทุนประกันทุกประการ
2.ความคุ้มครองภัยพิเศษ
ภัยที่เราไม่คาดคิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยก่อการร้าย อุบัติเหตุส่วนบุคคลเมื่อเกิดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลเมื่อได้รับบาดเจ็บ และการประกันตัวผู้ขับขี่เมื่อต้องส่งฟ้องศาลจากคดีอาญา
3.ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
คุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก(ทรัพย์สินของคนอื่นๆ ที่เราขับรถไปชนหรือเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ) และคุ้มครองบุคคลภายนอก(เมื่อเกิดการสูญเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ และเกี่ยวข้องกับสุขภาพ) ก็คุ้มครองเช่นเดียวกับประกันชั้น 1
ประกันรถยนต์ชั้น 3+
ประกันที่คุ้มครองการชนจากรถชนรถหรือการชนที่ระบุคู่กรณีได้เท่านั้น และยังดูแลค่าซ่อมทั้งรถของเราเองและรถคู่กรณีด้วย
1.ความคุ้มครองตัวรถคันที่เอาประกันภัย
คุ้มครองรถยนต์จากอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนกับรถยนต์ด้วยกันเท่านั้น การชนสิ่งที่ไม่ใช่รถไม่คุ้มครอง
2.ความคุ้มครองภัยพิเศษ
คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลเมื่อเกิดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลเมื่อได้รับบาดเจ็บ และการประกันตัวผู้ขับขี่เมื่อต้องส่งฟ้องศาลจากคดีอาญา แต่บางแพ็กเกจยังมีความคุ้มครองรถโดนน้ำท่วมด้วย
3.ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
คุ้มครองทรัพย์สินของคนอื่นๆ ที่เราขับรถไปชนหรือเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ และคุ้มครองบุคคลภายนอกเมื่อเกิดการสูญเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ และเกี่ยวข้องกับสุขภาพ
ประกันรถยนต์ชั้น 3
ประกันที่คุ้มครองการชนจากรถชนรถหรือการชนที่ระบุคู่กรณีได้เท่านั้นและดูแลค่าซ่อมเฉพาะรถคู่กรณี
1.ความคุ้มครองตัวรถคันที่เอาประกันภัย
คุ้มครองรถยนต์จากอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนกับรถยนต์ของคู่กรณีเท่านั้น
2.ความคุ้มครองภัยพิเศษ
คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลเมื่อเกิดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลเมื่อได้รับบาดเจ็บ และการประกันตัวผู้ขับขี่เมื่อต้องส่งฟ้องศาลจากคดีอาญาเหมือนชั้น 3+
3.ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
คุ้มครองทรัพย์สินของคนอื่นๆ ที่เราขับรถไปชนหรือเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ และคุ้มครองบุคคลภายนอกเมื่อเกิดการสูญเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ และเกี่ยวข้องกับสุขภาพเช่นเดียวกันกับชั้น 3+
เพราะความหมายของประกันรถยนต์แท้ที่จริงคือ การใช้เงินเพื่อคุ้มกันความเสียหายหรือการบาดเจ็บทางกายที่เกิดจากการชนกันบนท้องถนน และเพื่อป้องกันความรับผิดที่อาจเกิดจากเหตุดังกล่าวได้ การประกันรถยนต์อาจเสนอการคุ้มกันด้วยเงินเพิ่มเติมในกรณียานพาหนะถูกโจรกรรม และความเสียหายที่เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ นอกจากอุบัติเหตุ เช่น การถูกขีดข่วน อากาศ หรือ ภัยธรรมชาติและคุ้มกันความเสียหายจากการชนวัตถุที่อยู่นิ่ง ในแต่ละประเทศอาจมีกฎข้อบังคับเกี่ยวกับประกันภัยแตกต่างกันไป
หากสนใจซื้อประกันรถยนต์ด้วยตัวเอง คลิกที่นี่
หากสนใจซื้อประกันรถยนต์ด้วยตัวเอง คลิกที่นี่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น